พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [11. ทสุตตรสูตร] ธรรม 7 ประการ
5. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ (ธรรมเป็นองค์แห่งการตรัสรู้คือความสงบ
กายสงบใจ)
6. สมาธิสัมโพชฌงค์ (ธรรมเป็นองค์แห่งการตรัสรู้คือความตั้ง
จิตมั่น)
7. อุเบกขาสัมโพชฌงค์ (ธรรมเป็นองค์แห่งการตรัสรู้คือความวางใจ
เป็นกลาง)
นี้ คือธรรม 7 ประการที่ควรเจริญ
(ค) ธรรม 7 ประการที่ควรกำหนดรู้ คืออะไร
คือ วิญญาณฐิติ1 7 ได้แก่
1. มีสัตว์ทั้งหลายผู้มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน คือ มนุษย์
เทพบางพวก และวินิปาติกะบางพวก นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 1
2. มีสัตว์ทั้งหลายมีกายต่างกัน แต่มีสัญญาอย่างเดียวกัน คือ
พวกเทพชั้นพรหมกายิกา (เทพผู้นับเนื่องในหมู่พรหม) เกิดใน
ปฐมฌาน นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 2
3. มีสัตว์ทั้งหลายผู้มีกายอย่างเดียวกัน แต่มีสัญญาต่างกัน คือ
พวกเทพชั้นอาภัสสระ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 3
4. มีสัตว์ทั้งหลายผู้มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน
คือ พวกเทพชั้นสุภกิณหะ (เทพผู้เต็มไปด้วยความงดงาม) นี้
เป็นวิญญาณฐิติที่ 4
5. มีสัตว์ทั้งหลายบรรลุอากาสานัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า
อากาศหาที่สุดมิได้ เพราะล่วงรูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา
ไม่กำหนดนานัตตสัญญาโดยประการทั้งปวง นี้เป็นวิญญาณ-
ฐิติที่ 5
6. มีสัตว์ทั้งหลายล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง
บรรลุวิญญาณัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า วิญญาณหาที่สุด
มิได้ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 6
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [11. ทสุตตรสูตร] ธรรม 7 ประการ
7. มีสัตว์ทั้งหลายล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง
บรรลุอากิญจัญญายตนฌานโดยกำหนดว่า ไม่มีอะไร นี้
เป็นวิญญาณฐิติที่ 7
นี้ คือธรรม 7 ประการที่ควรกำหนดรู้
(ฆ) ธรรม 7 ประการที่ควรละ คืออะไร
คือ อนุสัย1 7 ได้แก่
1. กามราคานุสัย (อนุสัยคือความกำหนัดในกาม)
2. ปฏิฆานุสัย (อนุสัยคือความยินร้าย)
3. ทิฏฐานุสัย (อนุสัยคือความเห็นผิด)
4. วิจิกิจฉานุสัย (อนุสัยคือความลังเลสงสัย)
5. มานานุสัย (อนุสัยคือความถือตัว)
6. ภวราคานุสัย (อนุสัยคือความติดใจในภพ)
7. อวิชชานุสัย (อนุสัยคือความไม่รู้แจ้ง)
นี้ คือธรรม 7 ประการที่ควรละ
(ง) ธรรม 7 ประการที่เป็นไปในฝ่ายเสื่อม คืออะไร
คือ อสัทธรรม2 7 ได้แก่
ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
1. เป็นผู้ไม่มีศรัทธา
2. เป็นผู้ไม่มีหิริ
3. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ
4. เป็นผู้มีสุตะน้อย
5. เป็นผู้เกียจคร้าน
6. เป็นผู้มีสติหลงลืม
7. เป็นผู้มีปัญญาทราม
นี้ คือธรรม 7 ประการที่เป็นไปในฝ่ายเสื่อม